“ชั้นวางสินค้า เป็นสิ่งจำเป็นอันดับต้น ๆ ของร้านค้าปลีก”
ในการเลือกซื้อชั้นวางสินค้า ถ้าคุณเลือกชั้นวางที่ได้คุณภาพและเหมาะสมกับร้านค้าของคุณ ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีในการเปิดร้านหรือขยายกิจการซึ่งการเลือกชั้นวางที่ดีนั้น มันจะส่งผลให้สินค้าของคุณดูดี อีกทั้งยังช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่น่าดึงดูดให้กับลูกค้าด้วยนะ แต่ก่อนที่จะเลือกซื้อชั้นวางสินค้าคุณต้องตอบคำถามบางอย่างให้ได้ก่อน เพื่อเข้าใจความต้องการของตัวเองอย่างแท้จริง จะได้ซื้อชั้นวางสินค้าที่ตรงโจทย์ของคุณมากที่สุดยังไงล่ะคะ
1. คุณมีพื้นที่ในร้านค้ามากแค่ไหน?
‘ก่อนจะซื้อชั้นวางสินค้า คุณต้องรู้ขนาดพื้นที่ของร้านค้าซะก่อน’
เพื่อที่ต่อมาคุณจะกำหนดได้ถูกต้องว่าควรนำชั้นวางแบบไหนเข้ามาติดตั้งในร้านสมมติถ้าคุณมีร้านขนาดเล็ก ชั้นวางสินค้าที่คุณจะซื้อควรจะสามารถแสดงสินค้าของคุณได้อย่างครบครัน แต่ในขณะเดียวกันชั้นวางนั้นก็ต้องไม่ทำให้พื้นที่ร้านของคุณเต็มจนเกิดความคับแคบด้วยค่ะ
มาดูวิธีทำง่าย ๆ กัน
- วัดพื้นที่ร้านของคุณซะก่อน (หากยังไม่ทราบ)
- ต่อมาคุณก็สำรวจ หาข้อมูลชั้นวางสินค้าว่ามีแบบไหนบ้าง ขนาดความสูง-กว้าง-ยาวเท่าไหร่ ถึงจะเหมาะสมกับร้านค้าของคุณ
- ถ้ายังไม่เจอชั้นวางที่เหมาะสมกับขนาดของร้านจริง ๆ คุณสามารถเลือกที่จะสั่งทำพิเศษและกำหนดขนาด การรับน้ำหนักได้ด้วยตัวเอง เพื่อตอบโจทย์การใช้งานของเรามากที่สุด
ตัวอย่างการติดตั้งชั้นวางให้เหมาะสมกับพื้นที่
อีกประเด็นหนึ่งที่คุณควรจะคำนึงด้วยก็คือ กลยุทธ์ต่าง ๆ ในการวางแผนผังร้านค้าหรือตำแหน่งการจัดวาง อาจส่งผลต่อการเลือกชั้นวางสินค้าเช่นกัน
“เพราะสินค้าบางประเภทที่ขายดีมักจะได้รับพื้นที่ในการจัดวางมากกว่าสินค้าประเภทอื่น”
ซึ่งหมวดหมู่สินค้าที่ขายดีมักได้จะได้พื้นที่ในการวางโชว์สินค้ามากที่สุด และถูกใช้เป็นเครื่องมือในการดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาภายในร้านเราจึงขอแนะนำคุณว่า ให้ความสำคัญกับการเลือกชั้นวางสินค้าในพื้นที่สำหรับสินค้าขายดีมากขึ้น เนื่องจากบริเวณนี้มักจะมีลูกค้าแวะมาชมสินค้าและช้อปปิ้งอยู่ตลอดเวลา
ภาพตัวอย่างการจัดพื้นที่สำหรับสินค้าขายดี
ตัวอย่างการใช้ กระบะโปรโมชั่น ในร้านค้า
2. ประเภทของสินค้าที่คุณขายเป็นแบบไหน?
สินค้าที่คุณขายเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มีผลต่อการเลือกชั้นวางสินค้าที่คุณจะใช้ ควรพิจารณาเรื่องวัสดุของชั้นวางนั้น ๆ เป็นพิเศษ เพื่อให้สอดคล้องกับประเภทสินค้าของคุณหากคุณขายอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ที่เต็มไปด้วยสินค้าที่มีน้ำหนักมาก หรือสินค้าบางประเภทที่ไม่สามารถวางตั้งได้บนแผ่นชั้น สิ่งที่คุณจะต้องคำนึงคือ ชั้นวางสินค้าต้องมีความหนา รองรับน้ำหนักได้มาก วัสดุต้องมีคุณภาพ หรืออาจจะเป็นชั้นวางสินค้าที่เป็นแผ่นตาข่าย เอาไว้สำหรับแขวนสินค้าได้
แต่ถ้าคุณขายสินค้าแนวความงามหรือเครื่องสำอาง ชั้นวางสินค้าก็ไม่จำเป็นต้องรองรับน้ำหนักมากก็ได้ แต่ต้องมีความสวยงาม สีสันสดใส เหมาะกับผู้หญิง
ตัวอย่างชั้นวางเครื่องสำอาง
ดูภาพเพิ่มเติม : ตัวอย่างการติดตั้งชั้นวางสินค้า
3. น้ำหนักของสินค้าประมาณเท่าไหร่ ?
เรื่องนี้ค่อนข้างสำคัญมาก ถ้าคุณรู้ว่าน้ำหนักของสินค้ามีประมาณเท่าไหร่ การเลือกชั้นวางสินค้าก็จะต้อง หนามากขึ้น มีคุณภาพมากขึ้น รองรับน้ำหนักได้มากขึ้น
ตัวอย่างชั้นวางสินค้าที่รับน้ำหนักต่างกัน
ลองคิดภาพตามถ้าคุณเปิดร้านเกี่ยวกับอุปกรณ์เครื่องมือช่าง สินค้าจะมีน้ำหนักมากเป็นพิเศษ การเลือกชั้นวางสินค้าก็จะต้องเลือกรุ่นที่สามารถรองรับน้ำหนักมากหรือใช้แร็คแทนเพราะสามารถรองรับน้ำหนักได้สูงถึง หลักร้อยกิโลกรัม เพื่อที่จะได้รองรับน้ำหนักผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้อย่างไม่มีปัญหา หรือเกิดการพังทีหลัง
ตัวอย่างแร็คที่รองรับสินค้าที่มีน้ำหนักมาก
ดูภาพเพิ่มเติม : ชั้นวางวัสดุก่อสร้าง
4. ชั้นวางแบบไหนที่จะโชว์สินค้าของคุณได้ดีที่สุด?
ประเภทของชั้นวางสินค้าแบบไหนกันนะ.. ที่จะแสดงสินค้าของคุณได้ดีที่สุดถ้าอย่างนั้นมาดูตัวอย่างแนวทางทั่วไปสำหรับประเภทชั้นวางสินค้าที่จะนำไปใช้กับสินค้าในแต่ละประเภทกันดีกว่าค่ะ ว่ามันจะเป็นแบบไหนบ้าง
4.1) หนังสือพิมพ์ , นิตยสาร
สินค้าประเภทนี้ควรเป็นชั้นวางแบบตะแกรงสำหรับวางหนังสือพิมพ์และนิตยสารโดยเฉพาะ เพื่อที่จะสามารถวางได้อย่างพอดีกับไซส์ของสินค้านั้น ๆ
ตัวอย่าง : ชั้นวางหนังสือพิมพ์ และนิตยสาร
4.2) สินค้ามาใหม่ สินค้าแนะนำ
สินค้ามาใหม่ หรือสินค้าแนะนำเหมาะสำหรับการตั้งสินค้าเอาไว้ใกล้ ๆ หรือวางบน เคาน์เตอร์คิดเงิน เพื่อที่พนักงานจะได้สามารถแนะนำสินค้าได้ที่สำคัญเมื่อลูกค้าตั้งใจจะจ่ายเงินแล้วเกิดสนใจสินค้าที่วางไว้อยู่จะมีโอกาสใช้เวลาในการตัดสินใจสั้น ทำให้หลาย ๆ คน เลือกที่จะหยิบสินค้าที่อยู่บนเคาน์เตอร์เพิ่มด้วย ทั้งที่ไม่ได้มีความสนใจหรือตั้งใจที่จะซื้อมาก่อน
ดังนั้นเราควรเลือกชั้นวางสินค้าที่มีขนาดไม่เล็กจนเกินไปหรือใหญ่จนกินพื้นที่บนเคาน์เตอร์ หากมีหลายชั้นจะช่วยให้เราสามารถตั้งสินค้าได้มากขึ้นและที่สำคัญอาจช่วยเพิ่มยอดขายให้กับร้านค้าของคุณอีกด้วย
ตัวอย่าง ชั้นวางสินค้าบนเคาน์เตอร์
ตัวอย่าง : ชั้นวางสินค้าบนเคาน์เตอร์
ตัวอย่างร้านที่ใช้ชั้นวางสินค้าบนเคาน์เตอร์
4.3) อุปกรณ์เกี่ยวกับสายไฟ
การขายอุปกรณ์เกี่ยวกับสายไฟ ถ้าคุณนำชั้นวางสินค้าแบบปกติมาวาง มันก็อาจจะดูไม่สวยงาม และไม่ได้โชว์สินค้าได้ดีเท่าที่ควร ฉะนั้นจึงควรหาชั้นวางสำหรับโชว์สินค้าแบบสายไฟโดยเฉพาะ หรือที่เรียกว่าชั้นแกนโรลนั่นเองค่ะ
ตัวอย่างชั้นแกนโรล
ดูสินค้าเพิ่มเติม : ชั้นวางสายไฟ
5. ความต้องการชั้นวางสินค้าในอนาคต
เมื่อเลือกชั้นวางสินค้ากันได้เรียบร้อยแล้วควรคำนึงถึงอนาคตด้วย เพราะเทรนด์มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาตามยุคสมัย ควรจะมีการอัพเดทเทรนด์ใหม่ ๆ อยู่เสมอ เพื่อที่จะค้นหาสินค้าที่น่าสนใจมาขายเพิ่มเพื่อกระตุ้นยอดขายในร้านค้าของคุณโดยในอนาคตคุณอาจจะมีสินค้าที่แตกต่างกันนำเข้ามาวางขายก็ได้ ซึ่งมันก็ต้องใช้ชั้นวางที่แตกต่างกันให้เหมาะกับสินค้านั้น ๆ ด้วย
ดูภาพเพิ่มเติม : ตัวอย่างการติดตั้งชั้นวางสินค้า
ส่วนใหญ่แล้วเป้าหมายของการทำร้านค้าปลีก คือการขยายกิจการหรือสาขาต่อไปเรื่อย ๆ ดังนั้นการเลือกเพื่อนคู่ใจในเรื่องของชั้นวางสินค้าแล้วจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะคุณไม่ต้องเหนื่อยใจ หรือลองสุ่มเลือกร้านจำหน่ายชั้นวางสินค้าใหม่ทุกครั้งที่เปิดร้านใหม่คุณจึงต้องเลือกร้านที่จำหน่ายชั้นวางสินค้าที่มีหน้าร้าน มีสินค้าหลากหลาย มีบริการการติดตั้ง มีสินค้าพร้อมที่จะจัดส่งหรือติดตั้งฉะนั้นการที่คุณเลือกร้านชั้นวางสินค้าที่ตอบโจทย์ตั้งแต่แรกที่เป็นคู่คิด คู่ใจของธุรกิจคุณ จะขยายร้านอีกกี่ร้าน การเลือกชั้นวางสินค้าก็จะเป็นไปได้อย่างราบรื่นแน่นอน